- Published on
เข้าใจการจ่ายเงินในบาคาร่าให้ชัดเจน
baccarat
Table of Contents
แม้บาคาร่าจะดูเหมือนเกมที่เข้าใจง่าย แค่เลือกแทง Player หรือ Banker แต่สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนมองข้ามคือ “อัตราการจ่ายเงิน” ซึ่งส่งผลต่อกำไร–ขาดทุนในระยะยาวอย่างมาก หากคุณไม่เข้าใจเงื่อนไขการจ่ายเงินในแต่ละรูปแบบเดิมพัน อาจทำให้เสียโอกาส หรือเข้าใจผิดในการวางแผนเล่นได้
ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกการจ่ายเงินในบาคาร่าแบบละเอียด พร้อมยกตัวอย่างเพื่อให้คุณเห็นภาพชัด บาคาร่าไม่มีขั้นต่ํา และเลือกวางเดิมพันได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น
รูปแบบการวางเดิมพันหลัก
ในบาคาร่าออนไลน์ทั่วไป คุณจะพบกับตัวเลือกเดิมพันหลัก ๆ ดังนี้:
Player (ผู้เล่น): อัตราจ่าย 1:1 ถ้าแทง 100 บาท จะได้กำไร 100 บาท
Banker (เจ้ามือ): อัตราจ่าย 1:0.95 (หักค่าคอมมิชชัน 5%) ถ้าแทง 100 บาท จะได้กำไร 95 บาท
Tie (เสมอ): อัตราจ่าย 1:8 แทง 100 ได้กำไร 800 ถ้าไพ่ออกเท่ากันทั้งสองฝั่ง
Player Pair / Banker Pair: อัตราจ่าย 1:11 หากไพ่สองใบแรกของฝั่งที่เลือกออกเลขเหมือนกัน เช่น 8-8 หรือ Q-Q
ทำไม Banker ถึงจ่ายน้อยกว่า?
หลายคนสงสัยว่า ทำไมแทง Banker แล้วโดนหัก 5% ทั้งที่ความน่าจะชนะก็ใกล้เคียงกับ Player บาคาร่ายอดนิยม
คำตอบคือ “ฝั่ง Banker มีโอกาสชนะมากกว่าเล็กน้อย” จากสถิติการแจกไพ่จริง ๆ ทำให้คาสิโนต้องปรับสมดุลด้วยการเก็บค่าคอมมิชชันเมื่อแทงฝั่งนี้ชนะ เพื่อให้เกมมีความยุติธรรมในระยะยาว
แม้จะถูกหักค่าคอม แต่หากคุณเน้นเล่นฝั่ง Banker บ่อย ๆ โอกาสทำกำไรจะยังดีกว่าในระยะยาวหากเล่นแบบมีวินัย
ตัวอย่างการคำนวณผลตอบแทน
กรณีแทง Player:
แทง 200 บาท แล้วชนะ → ได้ 200 บาท (กำไรสุทธิ)
กรณีแทง Banker:
แทง 200 บาท แล้วชนะ → ได้ 190 บาท (หัก 5% ของ 200)
กรณีแทง Tie แล้วถูก:
แทง 100 บาท → ได้ 800 บาท (กำไร 700)
แต่ถ้า Tie แล้วเราแทงฝั่งอื่น:
เช่น แทง Banker แต่ผลออกเสมอ → ไม่ได้ไม่เสีย เงินคืนเต็มจำนวน
รู้ไว้ก่อนแทงคู่ (Pair)
เดิมพันคู่ (Player/Banker Pair) มีอัตราจ่ายสูงถึง 11 เท่า แต่โอกาสเกิดค่อนข้างน้อย โดยเฉลี่ยแล้วจะเกิด 1 ครั้งในทุก ๆ 10–15 ตา จึงเหมาะกับการแทงเสริมเป็นครั้งคราว ไม่ควรแทงหลักทุกตา เพราะเสี่ยงเสียเงินเปล่า
โบนัส / ซุปเปอร์ซิก / การจ่ายพิเศษ
บางเว็บหรือบางค่าย เช่น SA Gaming, Evolution, Sexy Baccarat อาจมีรูปแบบการจ่ายพิเศษเพิ่มเติม เช่น:
Bonus Bet: จ่ายเพิ่มถ้าไพ่ฝั่งที่ชนะมีแต้มต่างมาก (เช่น ชนะด้วย 8 แต้ม)
Super Six: หาก Banker ชนะด้วย 6 แต้ม จ่ายพิเศษ เช่น 12:1 หรือ 20:1 แล้วแต่เงื่อนไข
ผู้เล่นควรศึกษาแต่ละเว็บก่อนแทง เพราะบางโต๊ะอาจมีการจ่ายพิเศษที่น่าสนใจ
เคล็ดลับการเลือกแทงตามอัตราจ่าย
หากคุณเน้นปลอดภัย เล่นแบบระยะยาว → แทง Banker เป็นหลัก แม้จะหักคอม แต่โอกาสชนะสูงกว่า
หากต้องการลุ้นกำไรสูงในระยะสั้น → Tie และ Pair คือทางเลือก แต่ควรเล่นเฉพาะจังหวะ ไม่ใช่ทุกตา
หลีกเลี่ยงการแทงมั่วทุกช่องในตาเดียว เพราะแม้จะดูครอบคลุม แต่สุดท้ายอาจติดลบจากอัตราจ่ายไม่สมดุล
สรุป: เข้าใจจ่ายเงินก่อนวางแผน เดินเกมได้แม่นยำ
อัตราการจ่ายในบาคาร่าคือพื้นฐานที่ผู้เล่นทุกคนควรรู้ เพราะมันคือข้อมูลที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเดิมพันอย่างมีเป้าหมาย เลือกช่องแทงที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง และจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
การแทงแบบรู้ว่า “แทงอะไรได้เท่าไหร่” ย่อมปลอดภัยและได้ผลกว่าการแทงตามอารมณ์หรือเดาสุ่ม